จอห์น ดอลตันเป็นผู้ตั้งทฤษฎีอะตอมเป็นคนแรกแบบจำลองอะตอมของเขามีลักษณะเป็นทรงกลมตันเรียกว่าBilliard Ball Model ได้มาจากการสังเกตธาตุและสสารต่างๆแล้วอาศัยการคิดอย่างมีเหตุผลมาประกอบกันเป็น
ทฤษฎี สามารถอธิบายได้ดังนี้
1)อะตอมเป็นทรงกลมตันแบ่งแยกไม่ได้ ในปัจจุบันได้ถูกล้มล้างโดยการพบ อนุภาคมูลฐานในอะตอม คือ โปรตอน
นิวตรอน และอิเล็กตรอน
2)อะตอมของธาตุชนิดเดียวกันจะเหมือนกัน รวมถึงมวลเท่ากันด้วย ในปัจจุบันได้ถูกล้มล้างโดยการพบไอโซโทปของธาตุต่างๆในธรรมชาติ
ไอโซโทปคือธาตุชนิดเดียวกันเลขอะตอมเท่ากันแต่มีเลขมวลไม่เท่ากันก็คือธษตุชนิดเดียวกันมีมวลแตกต่างกันนั่นเอง
3)เมื่ออะตอมของธาตุตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไปมารวมตัวกันเป็นสารประกอบจะมีอัตราส่วนในการรวมตัวเป็นเลขลงตัวน้อยๆ
ข้อนี้ยังคงเป็นจริงอยู่ในปัจจุบัน
ยกตัวอย่างให้เห็นง่ายๆก็คือ สารประกอบ CaO เกิดจากCaซึ่งมีประจุ 2+
รวมกับOซึ่งมีประจุ 2- เมื่อทำการไขว้เลขประจุจะได้อัตราส่วนเป็น
2:2 ซึ่งต้องทำให้เป็นเศษส่วนอย่างต่ำหรือเลขลงตัวน้อยๆก็คือ
1:1นั่นเอง
4)อะตอมไม่สามารถสร้างขึ้นหรือทำลายให้สูญหายไปได้ ในปัจจุบันไม่เป็นความจริง
เราสามารถอธิบายได้ด้วย
สมการอันเลื่องชื่อของไอน์ไสตน์คือ
นั่นคือมวลสามารถเปลี่ยนไปเป็นพลังงานได้
จากทฤษฎีในข้อที่ 4 เป็นเรื่องเกี่ยวกับปฏิกิริยานิวเคลียร์
จึงอยากให้ทุกคนทำความเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับปฏิกิริยานิวเคลียร์สักเล็กน้อย
ปฏิกิริยานิวเคลียร์ คือการที่เกิดความเปลี่ยนแปลงกับนิวเคลียสของอะตอม ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่ม หรือโปรตรอน หรือนิวตรอนในนิวเครียสของอะตอม แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิชชัน (Fission) และปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชัน (Fusion)
ปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิชชัน(Fission) คือ
การสลายนิวเคลียสของอะตอมธาตุใหญ่ให้กลายเป็นธาตุเล็ก 2 อะตอม ซึ่งจะได้พลังงานมหาศาล
ปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชัน(Fusion) เป็นการรวมตัวของธาตุเบาสองอะตอมให้กลายเป็นอะตอมเดียวที่หนักขึ้น
ซึ่งจะได้พลังงานมหาศาลกว่าปฏิกิริยานิวเคลียร์แบบฟิชชัน
โดยปฏิกิริยานิวเคลียร์แบบฟิวชันนี้จะเกิดในดวงอาทิตย์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น