พ.ศ. 2428-2505
โบห์รได้ศึกษาเรื่องของอะตอมเกี่ยวกับสเปกตรัม
ซึ่งได้มีการตั้งข้อสังเกตว่าหากแบบจำลองอะตอมของรัทเทอร์ฟอร์ดถูกต้อง
เมื่ออิเล็กตรอนปล่อยพลังงานแสงสเปกตรัมออกมาพลังงานจะลดต่ำลงทำให้วงโจรของอิเล็กตรอนเล็กลงเรื่อยๆและท้ายที่สุดก็จะถูกดูดติดกับนิวเคลียสด้วยแรงดึงดูดระหว่างประจุ
โบหร์ได้นำสมการของ
แมกซ์ แพลงค์ ที่ว่าด้วยเรื่องของพลังงานและความถี่ของแสงมาเชื่อมโยงกับสมการความเร็วของแสง
สมการของแมกซ์
แพลงค์ คือ -----------(1)
เมื่อ E คือ พลังงาน
h
คือ ค่าคงที่ของแพลงค์ มีค่า
f คือ ความถี่
สมการความเร็วแสงคือ ------------(2)
เมื่อ C คือ ความเร็วแสงมีค่า
λ คือ ความยาวคลื่น
f คือ ความถี่
เมื่อนำสมการที่(2)มาจัดรูปจะได้ว่า -----------(3)
นำ (3) แทนใน (1) จะได้ -----------(4)
โบหร์วิเคราะห์แสงเสปกตรัมที่เกิดจากหลอดบรรจุก๊าซ
จนพบว่า ธาตุแต่ละชนิดมีรูปแบบของสเปกตรัมที่เฉพาะตัว
เมื่อมีรูปแบบสเปกตรัมที่เฉพาะตัวย่อมมีระดับพลังงานในแต่ละshellที่แตกต่างกันไปด้วย
จากข้อสรุปดังกล่าวโบหร์จึงได้เสนอแบบจำลองอะตอมซึ่งมีชื่อว่า
Planetary
model หรือ Bohr
model เนื่องจากวงโคจรของอิเล็กตรอนคล้ายกับวงโคจรของดาวเคราห์ในระบบสุริยะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น